ข่าว/ประกาศจากวิทยาลัย

อยากรวยขึ้น ต้องลงทุน อยากจนลง ต้องฝากแบงก์!

โดย ผศ.ดร. ภิเษก ชัยนิรันดร์ อาจารย์ด้านการเงิน MBA KKU

วันที่ผมไปสอนคณะพยาบาลศาสตร์ ในงานปัจฉิมนิเทศ มีนักศึกษาคนหนึ่งถามมาว่า หนูมีเงินอยู่ 100,000 บาท ทำอะไรดีคะ

สมมติว่า ถ้าเอา 100,000 ไปฝากธนาคาร ถ้าฝากออมทรัพย์ได้ 0.25% แต่ถ้าฝากประจำจะได้ประมาณ 1.5% น้อยมาก และได้ดอกเบี้ยมาต้องเสียภาษีอีก 15% ก็อย่างที่หลายคนทราบ ฝากเงินเป็นแสน ได้ดอกเบี้ยระดับร้อยเท่านั้นเอง

และถ้าเจอเงินเฟ้อ สมมติว่า 2% แสดงว่าฝากแบงก์เงินไม่งอกเงย แต่กลับลดค่าลงไปอีก

อย่ากระนั้นเลย เงิน 100,000 ควรจะกระจายมาลงทุน…

น้องที่ถาม อายุยังน้อย น่าจะประมาณ 21 ปี ยังมีความกล้าเสี่ยงอยู่ แต่เนื่องจากน้องยังไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน การที่บอกให้เล่นหุ้นเองก็อาจจะเสี่ยงเกินไป ดังนั้นผมเลยแนะนำว่า เอาเงินสัก 40,000 ไปซื้อกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น แต่ให้เจาะลึกจริงๆ ใจผมอยากให้ซื้อกองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะอนาคต ในยามที่ทรัมป์มาเป็นประธานาธิบดี ผมว่าว่าเศรษฐกิจก็น่าจะเป็นตามคำขวัญที่ว่า America great again หรือบางส่วนอาจจะลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศอินเดีย เพราะหลายๆ คนเชื่อว่าอินเดีย จะมีขนาดทางเศรษฐกิจแซงขึ้นมาอยู่ที่ 2 ต่อจากจีน

ส่วนอีกสัก 30,000 ไปลงทุนกองทุนตราสารหนี้ เอาแบบตราสารหนี้ในประเทศไทยก็ได้ อย่างน้อย ความเสี่ยงน้อยกว่าลงทุนกองทุนหุ้น และผลตอบแทนน่าจะมากกว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร เท่าที่สังเหตุ หากลงทุนในหุ้นกู้ที่น่าเชื่อถือ จะมีดอกเบี้ยประมาณ 3%-4%   

ส่วนอีกสัก 20,000 อาจจะลงทุนในหุ้น ผมยังเชื่อว่าหุ้นกลุ่มธนาคารยังมีอัตราการเติบโตที่สดใส เพราะกำไรแต่ละปี ก็เป็นหมื่นล้าน ค่า P/E (ราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น) ก็ต่ำเตี้ยเลียดดินเสียเหลือเกิน นั้นหมายความว่า คุณซื้อหุ้นในราคาที่ถูก  

อีก 10,000 ก็เอาฝากประจำไว้ เผื่อเหลือเผื่อขาด

ทั้งนี้ การลงทุนนี้เน้นระยะยาวนะครับ 3 ปีขึ้นไป ไม่ใช่เห็นตกๆลงมา ก็ขายเพราะตกใจ แบบนี้มีหวังขาดทุนแน่นอน

ประมาณนี้ คิดเห็นอย่างไร เชิญครับ